น.ส.กานต์รวี พัวประเสริฐ
วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
สรุปผลที่ได้รับจากการฝึกประสบการณ์
1.ได้ฝึกความรับผิดชอบต่อหน้าที่และความตรงต่อเวลา
-จากการปฏิบัติงานแต่ละอย่างต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อทำให้งานที่ได้รับมอบหมายบรรลุผลสำเร็จให้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งถือได้ว่าได้รู้จักรับผิดชอบและความตรงต่อเวลาในการส่งงาน หรือการเข้าปฏิบัติงาน
2.ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น
-จากการฝึกประสบการณ์ทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากทำงานร่วมกับผู้อื่น ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ซึ่งเราต้องรู้จักพูด รู้จักคุย หรือสอบถามในยามที่มีปัญหาในการทำงาน ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างมนุษย์สัมพันธ์ในการทำงาน
3.รู้จักการวางแผนการปฏิบัติงาน
-ในการทำงานแต่ละครั้งทำให้รู้จักการวางแผนการปฏิบัติงานว่าควรทำอะไรและทำอย่างไรเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ
4.ได้รู้จักการนำรายวิชาที่เรียนมาประยุกต์ใช้ในชีวิตการทำงาน
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 18
งานที่ปฏิบัติ
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 42 ชุด
-ทำการยืม-คืนแฟ้มเอกสารให้กับพนักงาน จำนวน 17 แฟ้ม
-ตรวจงาน CIS ของลูกค้า จำนวน 34 ราย
-ตรวจเช็คแฟ้มเอกสาร ว่าแฟ้มใดเป็นแฟ้มยกเลิกบริการบ้าง จำนวน 20 แฟ้ม
-ทำสันแฟ้มเอกสาร จำนวน 20 แฟ้ม
-เดินเอกสารโดยนำเอกสารไปให้พนักงานเซ็น จำนวน 1 ครั้ง
ปัญหา
-การทำสันแฟ้มออกแบบมาไม่พอดีกับแฟ้ม
การแก้ไข
-ทำการวัดสันแฟ้มให้เรียบร้อยก่อนทำการออกแบบ
ประโยชน์
-รู้จักการวางแผนการดำเนินงาน
-รู้จักการเรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยตนเอง
วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 17
งานที่ฏิบัติ
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 175 ชุด
-ทำการยืม-คืนแฟ้มเอกสารให้กับพนักงาน จำนวน 84 แฟ้ม
-ตรวจเอกสาร CIS ของลูกค้า จำนวน 114 ชุด
-ตรวจเช็คแฟ้มเอกสารภายในห้องว่าแฟ้มเรียงตามเลขแฟ้มหรือไม่ และแฟ้มใดหายไปบ้าง จำนวน 14 ตู้
-จัดทำแฟ้มการยืม-คืนเอกสารใหม่ จำนวน 1 แฟ้ม
-ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติบริษัทของลูกค้า จำนวน 55 บริษัท
ปัญหา
-การตรวจเช็คแฟ้มเอกสาร ทำการเช็คยากลำบากเนื่องจากเอกสารอยู่ชั้นที่สูง
-แฟ้มเอกสารที่อยู่สูงบางชั้น แฟ้มล้มทับกัน ทำให้สลับตำแหน่งของแฟ้ม
การแก้ไขปัญหา
-หาเก้าอี้มายืนเพื่อทำการเช็คแฟ้มเอกสาร และเรียงแฟ้มเอกสาร
ประโยชน์
-มีความอดทนต่อการทำงาน
-รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง
วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 16
งานที่ปฏิบัติ
-Scan เอกสารภายในแฟ้ม จำนวน 49 แฟ้ม
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 121 ชุด
-ทำการยืม-คืนแฟ้มเอกสารให้พนักงาน จำนวน 68 แฟ้ม
-ตรวจงาน CIS ของลูกค้า จำนวน 100 ชุด
-รับงานเข้าโดยคีย์ข้อมูลใน excel จำนวน 40 ชุด
-เดินเอกสารโดยนำเอกสารไปให้พนักงานเซ็นอนุมัติ จำนวน 2 ครั้ง
-ถ่ายเอกสารใบสินค้า จำนวน 29 ชุด
ปัญหา -
ประโยชน์ที่ได้รับ
-มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง
-รู้จักการทำงานอย่างเป็นระบบ
วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 15
งานที่ปฏิบัติ
-Scan เอกสารภายในแฟ้ม จำนวน 166 แฟ้ม
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 135 ชุด
-ทำการยืม-คืนแฟ้มให้กับพนักงาน จำนวน 52 แฟ้ม
-ตรวจงาน CIS ของลูกค้า จำนวน 43 ราย
-รับงานเข้าโดยคีย์ข้อมูลใน excel จำนวน 102 ชุด
-คีย์ข้อมูลว่าเอกสารแต่ละชุดมีจำนวนกี่แผ่น จำนวน 107 ชุด
-คีย์ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ารายใหม่ในระบบ จำนวน 7 ราย
-ตรวจเช็คงานที่ Scan แล้วว่าชื่อตรงกับเอกสารหรือป่าว รวมทั้งเช็คว่ามี Folder ข้อมูลที่ซ้ำกันไหม
ปัญหา
-การตรวจเช็คงานที่ Scan ทำให้ตาลาย หรือปวดสายตา
การแก้ปัญหา
-พักสายตา โดยมองไปทางอื่นบ้าง อย่าจ้องหน้าจอคอมนานเกินไป
ประโยชน์ที่ได้รับ
-รู้จักการวางแผนการดำเนินงาน เพื่อทำงานอย่างเป็นระบบ
วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
สรุปการปฎิบัติงานสัปดาห์ที่ 14
งานที่ปฎิบัติ
-Scan เอกสารภายในแฟ้มเอกสาร จำนวน 230 แฟ้ม
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 209 ชุด
-ทำการยืม-คืนแฟ้มเอกสารให้กับพนักงาน จำนวน 102 แฟ้ม
-เดินเอกสาร โดยนำเอกสารไปให้พนักงานเซ็น จำนวน 3 ครั้ง
-ตรวจเอกสาร CIS ของลูกค้า จำนวน 44 ราย
-ถ่ายเอกสารภายในแฟ้มเอกสาร จำนวน 15 ชุด
-รับงานเข้า โดยคีย์ข้อมูลใน Excel จำนวน 37 ชุด
ปัญหา
-เอกสารในแฟ้มที่ทำการ Scan บางชุดมีข้อมูลเหมือนกัน
-เอกสารที่ Scan บางชุดไม่รู้ว่าอยู่กับเอกสารชุดไหน
การแก้ปัญหา
-สอบถามพี่พนักงานว่าเอกสารที่เหมือนกันต้องทำการ Scan หรือไม่
-ทำการตรวจสอบ Ref ของเอกสาร หรือตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันของเอกสารทั้ง 2 ชุด
ประโยชน์ที่ได้รับ
-ได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น
-มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง
วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 13
งานที่ปฏิบัติ
-Scan เอกสารภายในแฟ้ม จำนวน 234 แฟ้ม
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 203 ชุด
-ทำการยืม-คืนแฟ้มเอกสารให้กับพนักงาน จำนวน 101 แฟ้ม
-ตรวจงาน CIS ของลูกค้า จำนวน 28 ราย
-ถ่ายเอกสาร จำนวน 25 ชุด
ปัญหา
-การตรวจงาน CIS ของลูกค้า ยังไม่ค่อยแน่ใจในบางกรณี บางครั้งตรวจผิดพลาด
การแก้ไข
-สอบถามพี่พนักงานให้แน่ใจ และจดจำข้อผิดพลาดต่างๆ และควรมีความรอบคอบ หรือตรวจสอบให้ดี
ประโยชน์ที่ได้รับ
-มีความรอบครอบในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น
-ทำให้เป็นคนที่กล้าแสดงออกในด้านของการซักถามเวลาเกิดข้อสงสัย
วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 12
งานที่ปฏิบัติ
-Scan เอกสารภายในแฟ้ม จำนวน 186 แฟ้ม
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 161 ชุด
-ทำการยืม-คืนแฟ้มเอกสารให้กับพนักงาน จำนวน 73 แฟ้ม
-ตรวจงาน CIS ของลูกค้า จำนวน 5 ราย
-ถ่ายเอกสารภายในแฟ้มเอกสาร จำนวน 15 ชุด
-เดินเอกสารโดยนำเอกสารที่ตรวจไปคืนให้พนักงานทำการแก้ไขข้อมูล จำนวน 2 ครั้ง
ปัญหา
-แฟ้มเอกสารที่พนักงานจะยืมไม่มีอยู่ในห้องเก็บแฟ้ม
การแก้ปัญหา
-ทำการค้นประวัติผู้ยืมทั้งในระบบและในเอกสารที่พนักงานต้องเซ็นทุกครั้งที่ยืมแฟ้มเอกสารว่าใครเป็นผู้ยืมคนล่าสุด
ประโยชน์ที่ได้รับ
-รู้จักการแก้ปัญหาด้วยตนเอง
-มีความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
-รู้จักการทำานอย่างเป็นระบบ
วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 11
งานที่ปฏิบัติ
-Scan เอกสารภายในแฟ้ม จำนวน 272 แฟ้ม
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 205 ชุด
-ค้นหาแฟ้มเอกสาร จำนวน 10 แฟ้ม
-ทำการยืม-คืนแฟ้มเอกสาร จำนวน 78 แฟ้ม
-เก็บแฟ้มเอกสาร จำนวน 20 แฟ้ม
-คีย์ข้อมูลลูกค้าในระบบ จำนวน 5 ราย
-เดินเอกสารโดยนำงานที่ Scan ไปให้พนักงาน จำนวน 1 ครั้ง
ปัญหา
-พนักงานบอกชื่อบริษัทไม่ชัดเวลามายืมแฟ้มเอกสาร
-ค้นหาแฟ้มเอกสารในระบบไม่พบ
-Save งานที่ทำไว้ไม่ได้ เนื่องจาก Folder งานที่เคยทำไว้ก่อนหน้านั้นไม่ได้อยู่ในไดร์ที่ทำการเซฟ
การแก้ปัญหา
-บอกให้พนักงานช่วยทวนชื่อใหม่ หรือช่วยสะกดให้ฟัง
-ลองค้นหาหลาย ๆ รอบ หรือลองดูในงาน Scan
-หา Folder งานดังกล่าวว่าถูกย้ายไปยังตรงไหน แล้วทำการย้ายกลับมายังที่เดิม
ประโยชน์ที่ได้รับ
-มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
-รู้จักแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 10
งานที่ปฏิบัติ
-Scan เอกสารภายในแฟ้ม จำนวน 209 แฟ้ม
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 139 ชุด
-ค้นหาแฟ้มเอกสารที่พนักงานมายืม จำนวน 9 แฟ้ม
-เดินเอกสาร โดยนำเอกสารที่ Scan ไปคืนพนักงาน จำนวน 1 ครั้ง
-คีย์ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ารายใหม่ จำนวน 10 ราย
-เก็บแฟ้มเอกสารเข้าที่ จำนวน 20 แฟ้ม
-ถ่ายเอกสารใบสินค้า จำนวน 15 ชุด
ปัญหา
-ไม่ทราบว่าโต๊ะทำงานของพนักงานที่นำเอกสารมาให้ Scan อยู่ตรงไหน
การแก้ปัญหา
-สอบถามพนักงานว่าพี่เขานั่งตรงไหน
ประโยชน์ที่ได้รับ
-มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 9
งานที่ปฏิบัติ
-Scan เอกสารภายในแฟ้ม จำนวน 258 แฟ้ม
-Scan เอกสารทั่วไป จำนวน 182 ชุด
-เดินเอกสาร จำนวน 1 ครั้ง
-คีย์ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ารายใหม่ในระบบ จำนวน 28 ราย
-คีย์ข้อมูลว่าเอกสารแต่ละชุดมีจำนวนกี่แผ่น พร้อมประทับตรา จำนวน 69 ชุด
-รับงานเข้าโดยคีย์ข้อมูลใน excel จำนวน 22 ชุด
-ค้นหาแฟ้มเอกสาร จำนวน 12 แฟ้ม
ปัญหา
-บางครั้งค้นหาแฟ้มเอกสารไม่พบ
การแก้ปัญหา
-ลองทำการค้นหาหลาย ๆ รอบ หรือลองค้นหาชื่ออื่นแทน
วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 8
วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 7
งานที่ปฏิบัติ
-คีย์เอกสารว่าแต่ละชุดมีจำนวนกี่แผ่น พร้อมประทับตรา จำนวน 728 ชุด
-คีย์เอกสารการรับคืน-ส่งคืน จำนวน 177 ชุด
-คีย์ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ารายใหม่ในระบบ จำนวน 57 ราย
-เก็บแฟ้มเอกสารที่ทำการสแกนแล้วเข้าที่ จำนวน 75 แฟ้ม
-เช็คข้อมูลในเอกสารว่ามีอยู่ในระบบหรือไม่ พร้อมประทับตรา จำนวน 11 ชุด
-เดินเอกสาร จำนวน 4 ครั้ง
-ถ่ายเอกสารใบสินค้า จำนวน 20 ชุด
-Scan เอกสารในแฟ้ม จำนวน 27 แฟ้ม
-ศึกษางานเกี่ยวกับการตรวจเอกสาร
ปัญหา
-Scan เอกสารในแฟ้มไม่ครบ เนื่องจากเอกสารมีข้อมูลด้านหลังด้วย
การแก้ปัญหา
-นำแฟ้มเอกสารดังกล่าวมาสแกนใหม่
วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 6
งานที่ปฏิบัติ
-คีย์เอกสารว่าแต่ละชุดมีจำนวนก่แผ่น พร้อมประทับตราเอกสาร จำนวน 475 ชุด
-คีย์เอกสารการรับคืน-ส่งคืน จำนวน 101 ชุด
-ทำความสะอาดเครื่องสแกน จำนวน 2 เครื่อง
-ค้นหาแฟ้มเอกสารเพื่อนำมาสแกน จำนวน 15 แฟ้ม
-ทำป้ายชื่อสินค้าใหม่และป้ายชื่อสมุดคืนงานให้กับ sale จำนวน 10 ชื่อ
-ถ่ายเอกสาร จำนวน 1 ชุด
-เดินเอกสาร จำนวน 3 ครั้ง
-เช็คข้อมูลในเอกสารว่ามีในระบบหรือไม่ พร้อมประทับตรา จำนวน 25 ชุด
ปัญหา -
วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 5
งานที่ปฏิบัติ
-คีย์เอกสารว่าแต่ละชุดมีจำนวนกี่แผ่น พร้อมประทับตรา จำนวน 636 ชุด
-คีย์เอกสารการรับคืน-ส่งคืน จำนวน 200 ชุด
-ค้นหาแฟ้มเอกสาร จำนวน 15 แฟ้ม
-ถ่ายเอกสาร จำนวน 30 ชุด
ปัญหา
วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 4
งานที่ปฏิบัติ
-คีย์เอกสารการรับคืน-ส่งคืน จำนวน 141 ชุด
-Scan เอกสาร จำนวน 30 ชุด
-คีย์ข้อมูลลูกค้าในระบบ จำนวน 30 ราย
-รับงานเข้าโดยคีย์ข้อมูลใน excel จำนวน 30 ชุด
-ถ่ายเอกสาร จำนวน 2 ชุด
ปัญหา
-คีย์ข้อมูลลูกค้ารายใหม่ผิด
-ถ่ายเอกสารไม่เป็น
-Scan เอกสารไม่ครบ
-Copy งานที่ Scan มาไว้ผิดที่
การแก้ไขปัญหา
-ทำการตรวจเช็คข้อมูล และต้องรอบครอบ
-ให้พี่สอนการถ่ายเอกสาร
-Scan เอกสารที่ขาดให้ครบ และมีความตั้งใจในการทำงาน
วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 3
วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 2
วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สรุปการปฏิบัติงานสัปดาห์ที่ 1
วันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2553
วันที่ 1 พ.ย. 53
- คีย์ข้อมูลเอกสารว่าเอกสารแต่ละชุดมีจำนวนกี่แผ่น พร้อมประทับตราโดยลงชื่อผู้ตรวจเอกสาร วันที่ เวลา และจำนวนแผ่น และนำข้อมูลจำนวนแผ่นมาคีย์ในระบบงาน จำนวน 60 ชุด
วันที่ 2 พ.ย. 53
- คีย์ข้อมูลเอกสารว่าเอกสารแต่ละชุดมีจำนวนกี่แผ่น พร้อมประทับตราโดยลงชื่อผู้ตรวจเอกสาร วันที่ เวลา และจำนวนแผ่น และนำข้อมูลจำนวนแผ่นไปคีย์ในระบบงาน จำนวน 80 ชุด
- คีย์เอกสารเกี่ยวกับการรับคืน โดยกรอกข้อมูลตามที่ระบุไว้ การส่งคืน โดยการใส่วันที่ในการส่งคืนเอกสารมายังหน่วยงาน จำนวน 5 ชุด
วันที่ 3 พ.ย. 53
- คีย์ข้อมูลเอกสารว่าเอกสารแต่ละชุดมีจำนวนกี่แผ่น พร้อมประทับตราโดยลงชื่อผู้ตรวจเอกสาร วันที่ เวลา และจำนวนแผ่น และนำข้อมูลจำนวนแผ่นมาคีย์ในระบบงาน จำนวน 100 ชุด
- คีย์เอกสารเกี่ยวกับการรับคืน โดยกรอกข้อมูลตามที่ระบุไว้ การส่งคืน โดยการใส่วันที่ในการส่งคืนเอกสารมายังหน่วยงาน จำนวน 15 ชุด
วันที่ 4 พ.ย. 53
- คีย์ข้อมูลเอกสารว่าเอกสารแต่ละชุดมีจำนวนกี่แผ่น พร้อมประทับตราโดยลงชื่อผู้ตรวจเอกสาร วันที่ เวลา และจำนวนแผ่น และนำข้อมูลจำนวนแผ่นมาคีย์ในระบบงาน จำนวน 24 ชุด
- คีย์เอกสารเกี่ยวกับการรับคืน โดยกรอกข้อมูลตามที่ระบุไว้ การส่งคืน โดยการใส่วันที่ในการส่งคืนเอกสารมายังหน่วยงาน จำนวน 4 ชุด
วันที่ 5 พ.ย. 53
- คีย์ข้อมูลเอกสารว่าเอกสารแต่ละชุดมีจำนวนกี่แผ่น พร้อมประทับตราโดยลงชื่อผู้ตรวจเอกสาร วันที่ เวลา และจำนวนแผ่น และนำข้อมูลจำนวนแผ่นมาคีย์ในระบบงาน จำนวน 130 ชุด
- คีย์เอกสารเกี่ยวกับการรับคืน โดยกรอกข้อมูลตามที่ระบุไว้ การส่งคืน โดยการใส่วันที่ในการส่งคืนเอกสารมายังหน่วยงาน จำนวน 30 ชุด
ปัญหา
-หาเลขที่เอกสารในระบบไม่พบ
-เอกสารบางชุด ลืมใส่เวลา
การแก้ปัญหา
-สอบถามพี่พนักงานว่าควรทำอย่างไร เมื่อทราบแล้วดำเนินการปฏิบัติตาม
-ตรวจสอบให้รอบครอบก่อน
ประโยชน์ที่ได้รับ
-ทำให้มีความรอบครอบในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น
-มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบ
วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ
จากการเรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 3 นั้นทำให้เราเป็นคนที่ตรงต่อเวลาในการเรียน ต่อการทำงาน แล้วยังสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากตรงนี้ไปปฏิบัติต่อหน่วยงาน หรือต่อผู้อื่นในภาคหน้าได้ เพราะการตรงต่อเวลาเป็นตัวบ่งบอกถึงนิสัย บ่งบอกถึงความรับผิดชอบ และสิ่งอื่นๆอีกมากมายในตัวของเราเอง
2. ได้รับความรู้เพิ่มเติม
จากการเรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 3 นั้นข้าพเจ้าได้รับความรู้เพิ่มเติมจากการเรียนครั้งนี้ ในสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เคยรู้ ไม่เคยเข้าใจ ในเรื่องที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี การใช้ภาษา ฯลฯ นอกจากนี้แล้วยังทำให้ข้าพเจ้ารู้จักการพัฒนาตนเอง แล้วยังนำความรู้ที่ได้มาเสริมสร้างประสบการณ์ของตนเองต่อไป
3. มีความรับผิดชอบและความสามัคคีในการทำงาน
ในการเรียน การทำงานแต่ละครั้งเราอาจต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น ทำให้เราต้องรู้จักช่วยเหลือ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และเมื่อเราต้องการให้งานเสร็จลุล่วงไปด้วยดี เราต้องมีความสามัคคีในการทำงาน แล้ววิชาเตรียมฝึกก็ได้สอนในเรื่องของการทำงานเป็นทีม จึงทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมาย แล้วยังฝึกฝนให้ข้าพเจ้ามีความสามัคคีในการทำงานอีกด้วย
4. รู้จักกาลเทศะ ความเหมาะสมในเรื่องของการแต่งกาย
ในการอยู่ร่วมสังคมกับผู้อื่น เราต้องรู้จักการวางตัว รู้จักกาลเทศะ และเรื่องของการแต่งกาย ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเรา แล้วในการเรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 3 ก็ช่วยแนะหรือคอยตักเตือนในเรื่องของการแต่งกายให้ถูกระเบียบอยู่เสมอ ทำให้ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามในเรื่องของการแต่งกายให้ถูกระเบียบ ถูกต้องตามกาลเทศะว่าควรแต่งกายอย่างไรให้เหมาะสม เพื่อส่งเสริมหรือพัฒนาตนเองให้ดูดียิ่งขึ้น
ในการเรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ 3 ทำให้ข้าพเจ้าได้รับประโยชน์มากมายหลายอย่าง ได้ทั้งประสบการณ์การทำงาน ความรู้เพิ่มเติม แม้กระทั่งข้อคิดดีๆ ที่ได้จากอาจารย์ผู้สอน หรือจากวิทยากรต่างๆ ข้าพเจ้าหวังว่าจะนำสิ่งที่ได้มานี้มาใช้ในชีวิตประจำวันของข้าพเจ้าต่อไป
วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2552
DTS 11-16-09-2552
การค้นหาข้อมูล searching แบ่งเป็น 2 ประเภท
การค้นหาแบบเชิงเส้นหรือการค้นหาตามลำดับ (Linear)
การค้นหาแบบเซนทินัล (Sentinel)
การค้นหาแบบไบนารี (Binary Search)
วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552
DTS 10-09-09-2552
เรื่อง Graph (ต่อ) และ Sorting
การท่องไปในกราฟ
กราฟมีน้ำหนัก คือ กราฟที่ทุกเอดจ์มีค่าน้ำหนักกำกับ ค่าน้ำหนักนี้อาจหมายถึงระยะทาง เวลา เป็นต้น ใช้แก้ปัญหา ดังนี้
Sorting
การเรียลำดับอย่างมีประสิทธิภาพต้องคำนึงถึง
วิธีการเรียงลำดับ
การเรียงลำดับแบบเลือก
การเรียงลำดับแบบฟอง
การเรียงลำดับแบบเร็ว
การเรียงลำดับแบบแทรก
การเรียงลำดับแบบฐาน
วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552
DTS 09-02-09-2552
เป็นการนำนิพจน์มาเก็บยังโครงสร้างทรี โดยแต่ละโหนดจะเก็บตัวดำเนินการ (Operator) และตัวถูกดำเนินการ (Operand) ซึ่งตัวถูกดำเนินการจะเก็บอยู่ที่โหนดใบ ส่วนตัวดำเนินการจะเก็บอยู่ที่โหนดกิ่ง แต่ต้องคำนึงถึงความสำคัญของเครื่องหมายตามลำดับด้วย คือ
-ฟังก์ชั่น
-วงเล็บ
-ยกกำลัง
-เครื่องหมายหน้าเลขจำนวน
-คูณ หาร
-บวก ลบ
***ถ้ามีความสำคัญในระดับเดียวกันให้ทำจากซ้ายไปขวา
ไบนารีเซิร์ซทรี
ค่าของโหนดรากจะมีค่ามากกว่าโหนดย่อยทางด้านซ้าย และมีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับโหนดย่อยทางด้านขวา
การเพิ่มโหนดในไบนารีเซิร์ซทรี ถ้าทรีว่างโหนดที่เพิ่มจะเป็นโหนดราก ถ้าทรีไม่ว่างต้องทำการตรวจสอบโหนดใหม่ว่ามีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าค่าที่โหนดราก
การดึงโหนดในไบนารีเซิร์ซทรี ต้องทำการค้นหาตำแหน่งที่ต้องการดึงก่อนว่าอยู่ตำแหน่งใดแล้วต้องรู้ด้วยว่าโหนดแม่ของโหนดนั้นคือโหนดไหน จึงจะสามารถทำการดึงได้ แต่เมื่อดึงโหนดออกแล้ว ทรีนั้นต้องคงสภาพเนไบนารีเซิร์ซทรีเหมือนเดิม
วิธีการดึงโหนดออก แยกได้ 3 วิธี
Graph
ในการเขียนกราฟสิ่งที่สนใจจะถูกแทนด้วยจุด หรือ วงกลม ที่มีชื่อข้อมูลกำกับ ส่วนเอ็จจะแทนด้วยเส้นหรือเส้นโค้ง
การแทนกราฟในหน่วยความจำ
กราฟที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาจใช้วิธีแอดจาเซนซีลิสต์ คือการใช้ลิงค์ลิสต์ เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ยังมีวิธีแทนกราฟในความจำหลักอีกวิธีหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ การแทนด้วยแอดจาเซนซีเมทริกซ์ โดยที่ถ้ากราฟ L มีทั้งหมด nโหนด แอดจาเซนซีเมทริกซ์เป็นเมทริกซ์จัตุรัสขนาด n*n วิธีนี้สามารถหาจำนวนเส้นทางได้ว่ามีกี่จำนวนเส้นทาง
การท่องไปในกราฟ
วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552
DTS 08-26-08-2552
การเรียกชื่อองค์ประกอบของทรี
นิยามของทรี
2.ด้วยรูปแบบรีเคอร์ซีฟ กรณีที่โหนดว่างเรียกว่า (Null Tree) ถ้ามีโหนดเป็นโหนดราก ส่วนที่เหลือจะเป็นทรีย่อย
3.นิยามที่เกี่ยวข้อง
การแทนที่ทรีในหน่วยความจำหลัก
2.แทนทรีด้วยไบนารีทรี จะมีการกำหนดโหนดทุกโหนดให้มีจำนวนลิงค์ฟิลด์เพียงสองลิงค์ฟิลด์ โดยลิงค์ฟิลด์แรกเก็บที่อยู่โหนดลูกคนโต ลิงค์ฟิลด์ที่สองเก็บที่อยู่โหนดพี่น้อง กรณีไม่มีโหนดลูกและโหนดพี่น้องใส่ Null การแทนที่ทรีด้วยวินี้เป็นการประหยัดเนื้อที่ได้มาก
ไบนารีทรีแบบสมบูรณ์นั้นจะมีโหนดทรีย่อยทางด้านซ้ายและขวา ยกเว้นโหนดใบหรือโหนดที่ไม่มีลูก แต่โหนดใบจะต้องอยู่ในระดับเดียวกัน
การแปลงทรีทั่วไปให้เป็นไบนารีทรี มีขั้นตอนดังนี้
การท่องไปในไบนารีทรี
วิธีการท่องไปในทรีมี 6 วิธี แต่นิยมใช้กันมากคือ NLR , LNR , LRN
2. การท่องไปแบบอินออร์เดอร์ เป็นการเยือนด้วยวิธี LNR สำหรับการเข้าถึงแบบอินออร์เดอร์จะดำเนินการเข้าเยี่ยมทรีย่อยด้านซ้ายก่อน จากนั้นจึงเข้าเยี่ยม N และสิ้นสุดการเข้าเยี่ยมที่ทรีย่อยด้านขวา
3. การท่องไปแบบโพสออร์เดอร์ เป็นการเยือนด้วยวิธี LRN การประมวลผลของโพสออร์เดอร์ จะเริ่มต้นด้วยทรีย่อยด้านซ้ายจานั้นมาประมวลผลต่อที่ทรีย่อยด้านขวาและสิ้นสุดการประมวลผลที่ N
วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552
DTS 07-05-08-2552
เรื่อง Queue
คิวเป็นโครงสร้างข้อมูลแบบหนึ่งซึ่งมีลักษณะที่ว่า ข้อมูลที่นำเข้าไปเก็บก่อนจะถูกนำออกมาทำงานก่อน ส่วนข้อมูลที่เข้าไปเก็บทีหลังก็จะถูกนำออกมาใช้งานทีหลัง ขึ้นอยู่กับลำดับการเก็บข้อมูล จะเรียกลักษณะการทำงานแบบนี้ว่า เข้าก่อนออกก่อน หรือ First In First Out (FIFO) การเพิ่มข้อมูลจะเพิ่มจากด้านท้ายหรือเรียร์
การทำงานของคิว
การแทนที่ข้อมูลของคิว มี 2 วิธี คือ
2.การแทนที่ข้อมูลของคิวแบบลิงค์ลิสต์ ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ Head Node มี 3 ส่วนมีพอยเตอร์ 2 ตัว และจำนวนสมาชิก กับ Data Node จะมีข้อมูล และพอยเตอร์ชี้ตัวถัดไป
การดำเนินการเกี่ยวกับคิว
การประยุกต์ใช้คิว จะถูกประยุกต์ใช้มากในระบบธุรกิจ เช่นการให้บริการลูกค้า คือลูกค้าที่มาก่อนย่อมต้องได้รับบริการก่อน และในด้านคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติงาน (Operating System) คือจัดให้งานที่เข้ามา ได้ทำงานตามความสำคัญ (Priority)
วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
DTS 06-29-07-2552
การแทนที่ข้อมูลของสแตก มี 2 วิธี คือ
การแทนที่ข้อมูลของสแตกด้วยอาร์เรย์
การแทนสแตกด้วยโครงสร้างอาร์เรย์นั้น เนื่องจากอาร์เรย์เป็นโครงสร้างที่ต้องมีการกำหนดจองพื้นที่เท่ากับขนาดที่ใหญ่ที่สุด(static) จึงจำเป็นต้องมีการกำหนดขนาดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุดให้เหมาะสมเมื่อมีการนำเอาข้อมูลเข้ามาก็จะนำเข้ามาจัดไว้ในอาร์เรย์แรกสุดจากนั้นจึงเรียงลำดับกันไปตามพื้นที่ที่กำหนด
การแทนที่ข้อมูลของสแตกแบบลิงค์ลิสต์
การดำเนินงานเกี่ยวกับสแตก
การคำนวณนิพจน์ทางคณิตศาสตร์ แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ
1. นิพจน์ Infix คือ นิพจน์ที่มีเครื่องหมายดำเนินการ(operator)อยู่กึ่งกลางตัวถูกดำเนินการ (operand) เช่น A + B
2. นิพจน์ Postfix คือ นิพจน์ที่มีเครื่องหมายดำเนิน(operator)การอยู่ด้านหลังตัวถูกดำเนินการ (operand) เช่น AB+
3. นิพจน์ Prefix คือ นิพจน์ที่มีเครื่องหมายดำเนินการ(operator)อยู่ด้านหน้าตัวถูกดำเนินการ (operand) เช่น -AB
*** เครื่องหมายดำเนินการ (operand) ได้แก่เครื่องหมาย + - * ^ ตัวถูกดำเนินการ ได้แก่ สัญลักษณ์แทนค่าตัวเลข เช่น A B C D
หรือตัวแปรอื่น
สำหรับการดำเนินการด้านการคำนวณนั้น ในระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถที่จะจัดลำดับของการคำนวณในรูปแบบของ infix ได้ แต่จะแปลงเป็นนิพจน์ของ infix หรือ prefix เสียก่อน โดยลักษณะของการแปลงนิพจน์จะใช้การเปรียบเทียบความสำคัญของตัวดำเนินการ
ลำดับความสำคัญของตัวดำเนินการ
ขั้นตอนการแปลง infix เป็น postfix
การคำนวณค่า postfix
วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
DTS 05-22-07-2552
Linked List (ต่อ)
Traverse การท่องเข้าไปในลิสต์ คือ การท่องไปในทุกโหนดของลิงค์ลิสต์ เข้าถึงโครงสร้างทีละโครงสร้างที่อยู่ในลิสต์นั้น
Retrieve Node คือ การหาตำแหน่งข้อมูลในลิสต์ ว่าข้อมูลที่ต้องการนั้นอยู่ตำแหน่งที่เท่าไหร่ในลิสต์นั้น
EmptyList คือ ลิงค์ลิสต์ที่ไม่มี node อยุ่ภายใน หรือเป็นการทดสอบว่าลิสต์ว่างหรือไม่
List count คือ การนับจำนวนข้อมูลที่มีอยู่ในลิสต์ทั้งหมด ซึ่งสามารถดูค่าของจำนวนข้อมูลได้จาก Count
Destroy list คือ การทำลายลิสต์ทิ้ง โดยการลบข้อมูลในลิสต์ออกจนหมด
Linked List แบบซับซ้อน
Stack
การดำเนินงานพื้นฐานของสแตก ประกอบด้วยกระบวนการ 3 กระบวนการ
2.Pop การเอาข้อมูลที่อยู่บนสุดในสแตกออก ในการpop นั้นเราจะสามารถ pop ข้อมูลจากสแตกได้เรื่อย ๆ จนกว่า ข้อมูลจะหมดสแตก หรือ เป็นสแตกว่าง โดยก่อนที่จะนำข้อมูลออกจากสแตก จะต้องมีการตรวจสอบว่าใน สแตกมีข้อมูลเก็บ อยู่หรือไม่
3.Stack Top เป็นการคัดลอกข้อมูลในสแตก แต่ข้อมูลที่ถูกคัดลอกนั้นไม่ได้ถูกลบออกจากสแตก
**ตัวอย่างของสแตก = การว่างเก้าอี้ซ่อนกัน คือ เก้าอี้ตัวแรกจะถูกว่างไว้ข้างล่างสุดเมื่อต้องการใช้ก็ต้องดึงตัวที่อยู่บนสุดก่อนแล้วจึงจะใช้ตัวแรกที่ว่างอยู่ข้างล่างได้
การวางเหรียญซ่อนกัน คือ การวางเหรียญนั้นเหรียญแรกจะวางอยู่ล่างสุดแล้วเรียงต่อไปเรื่อยๆ การยิบเหรียญลงมาจึงต้องหยิบจากเหรียญบนสุดก่อนถึงจะหยิบเหรียญแรกได้
วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
DTS 04-15-07-2552
เรื่อง Linked List
Linked List
เป็นการจัดเก็บชุดข้อมูลมีพอยเตอร์เป็นตัวเชื่อมโยงต่อเนื่องกันไปตามลำดับ
ซึ่งในลิงค์ลิสต์จะประกอบไปด้วยข้อมูลที่เรียกว่าโหนด (Node) ในหนึ่งโหนดจะประกอบด้วย
1.ส่วนของข้อมูลที่ต้องการจัดเก็บ เรียกว่าส่วน (Data)
2.ส่วนที่เป็นพอยน์เตอร์ที่ชี้ไปยังโหนดถัดไป (Link) หรือชี้ไปยังโหนดอื่นๆที่อยู่ในลิสต์
**หากโหนดแรกไม่มีข้อมูลหรือไม่มีข้อมูลในโหนดที่อยู่ถัดไป ส่วนที่เป็นพอยน์เตอร์หรือ Link จะเก็บค่า NULL เขียนแทนด้วยเครื่องหมาย กากบาท
โครงสร้างข้อมูลแบบลิงค์ลิสต์ประกอบด้วย 2 ส่วน
1.Head Structure แบ่งเป็น 3ส่วน
-count เป็นการนับจำนวนข้อมูลที่มีอยู่ในลิสต์นั้น
-pos พอยเตอร์ที่ชี้ไปยังโหนดที่เข้าถึง
-head พอยเตอร์ที่ชี้ไปยังโหนดแรกของลิสต์
2.Data Node Structure จะประกอบด้วย ข้อมูลและพอยเตอร์ที่ชี้ไปโหนดถัดไป
การเพิ่มข้อมูลลงไปในลิงค์ลิสต์นั้น จากที่ Head Structure ในส่วนของ count จะมีค่าเป็น 0 นั้นหมายถึงในลิสต์นั้นยังไม่มีข้อมูลใดเลย ส่วน head จะมีเครื่องหมายกากบาท นั้นหมายถึงในลิสต์นั้นไม่มีการเชื่อมโยงไปยังข้อมูลแรก แต่ถ้าต้องการเพิ่มข้อมูลลงไปในลิสต์ Data Node ในส่วนของข้อมูล (Data)จะมีค่าเก็บอยู่ แล้ว count ก็จะเปลี่ยนค่าจาก 0 เป็น 1 คือ การบ่งบอกถึงจำนวนข้อมูลที่มีอยู่ในลิสต์นั้น แล้ว head ก็จะชี้ไปยังข้อมูล (Data) ตัวแรกของลิสต์ ส่วนพอยเตอร์ที่ชี้ไปโหนดถัดไปจะเป็นเครื่องหมายกากบาทแทน
การลบข้อมูลในลิงค์ลิสต์ ถ้าต้องการลบข้อมูลตัวใดในลิสต์สามารถลบได้เลย แต่ต้องเปลี่ยน head เพื่อชี้ไปยังข้อมูลตัวแรกของลิสต์กรณีที่ลบข้อมูลตัวแรกออก แล้ว link คือ เมื่อลบข้อมูลตัวใดออกควรชี้ link ถัดไปให้ถูกต้องด้วย
วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
DTS 03-01-07-2552
Pointer
ตัวแปร pointer เป็นตัวแปรที่ทำหน้าที่เก็บตำแหน่งที่อยู่ของตัวแปร สามารถอ้างอิงกลับไปกลับมาได้ มีขนาด 2 ไบต์เท่ากันหมด ไม่ว่าจะเป็น char,int,floatหรืออื่นๆ
ในการประกาศตัวแปร pointer จะต้องนำหน้าด้วยเครื่องหมาย * เช่น int*x // เป็นตัวแปร pointer
เครื่องหมาย & เป็นเครื่องหมายที่บอกตำแหน่งที่อยู่ของตัวแปรที่เก็บไว้ในหน่วยความจำ
** ในกรณีที่ตัวแปรใดมีเครื่องหมาย & นำหน้าจะไม่สามารถนำมาคำนวณได้
ตัวอย่าง
int *ptr,count // เป็นการประกาศตัวแปร ptr เป็นตัวแปร pointer และประกาศตัวแปร count
count = 100 // เป็นการกำหนดค่าให้กับ count มีค่าเท่ากับ 100
ptr = &count // เป็นการกำหนดค่าให้กับ ptr มีค่าเท่ากับตำแหน่งที่อยู่ของ count
** ถ้าต้องการทราบว่า *ptr มีค่าเท่าไหร่หาได้จาก ณ ตำแหน่งที่ ptr เก็บอยู่ คือตำแหน่งที่เท่าไหร่แล้วดูว่าที่ตำแหน่งนั้นมีค่าเท่ากับเท่าไหร่
Set
เป็นโครงสร้างที่ข้อมูลแต่ละตัวไม่มีความสัมพันธ์กันเลย ตัวดำเนินการของเซ็ต ประกอบด้วย
1.set intersection
2.set union
3.set difference
String
เป็นข้อมูลที่ประกอบด้วย ตัวอักษร ตัวเลข หรือเครื่องหมายที่เรียงติดต่อกัน
ความยาวของสตริงจะถูกกำหนดโดยขนาดของสตริง ในการจองเนื้อที่นั้น ต้องทำการจองเนื้อที่ให้กับ \0 ด้วย
วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552
การบ้าน"Structure"
int day;
int month;
int year;
};
struct mobile{
char brand[20];
char modle[20];
char color[10];
int item;
float price;
struct date date1;
}mobile1;
ตัวอย่างการเขียนโปรแกรม
#include
#include
void main ()
{
struct date{
int day;
int month;
int year;
};
struct mobile{
char brand[20];
char modle[20];
char color[10];
int item;
float price;
struct date date1;
}mobile1;
strcpy(mobile1.brand,"nokia");
strcpy(mobile1.modle,"N72");
strcpy(mobile1.color,"black");
mobile1.item=1;
mobile1.price=7800;
mobile1.date1.day=17;
mobile1.date1.month=04;
mobile1.date1.year=2550;
printf("\t\t\tmobile\n\n");
printf("brand:%s\n\n",mobile1.brand);
printf("modle:%s\n\n",mobile1.modle);
printf("color:%s\n\n",mobile1.color);
printf("item:%d\n\n",mobile1.item);
printf("price:%f\n\n",mobile1.price);
printf("day:%d\n\n",mobile1.date1.day);
printf("month:%d\n\n",mobile1.date1.month);
printf("year:%d\n\n",mobile1.date1.year);
printf("\t\t\tend\n");
}
วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552
DTS 02-24-06-2552
Array
1.อาร์เรย์มิติเดียว คือจะเก็บข้อมูลในแถวเดียวไม่ว่าจะเป็นแนวนอน หรือ แนวตั้ง รูปแบบของอาร์เรย์มิติเดียว
2.อาร์เรย์หลายมิติ จะมี 2 มิติ หรือ 3 มิติ จะแตกต่างจากอาร์เรย์มิติเดียวตรงที่ตัวห้อย คือ ตัวห้อยของอาร์เรย์จะมีขนาดของแถวและขนาดของคอลัมม์มาเป็นตัวบอกจำนวนสมาชิกด้วย รูปแบบของอาร์เรย์มิติหลายมิติ
* กรณีถ้ามีการกำหนดค่าให้กับตัวแปรชนิด character ขนาดของอาร์เรย์ก็จะมีขนาดเพิ่มขึ้นจากเดิมมาหนึ่งค่า เพื่อเก็บ "\0" จะทำหน้าที่บอกการสิ้นสุดของสายอักษร
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล นางสาวกานต์รวี พัวประเสริฐ (Miss. Kanrawee Puaprasert)
ชื่อเล่น "มีน" ("Meen")
เกิดวันที่ 16 เมษายน 2532
อายุ 20 ปี
ที่อยู่ปัจจุบัน 99/138 ซอยเสนานิคม ถนน พหลโยธิน เเขวง ลาดพร้าว เขต ลาดพร้าว
จังหวัด กรุงเทพมหานคร 10230
E-mail meenz_aa @hotmail.com
คติพจน์ การดำเนินชีวิตโดยปราศจากเป้าเหมาย ก็เหมือนกับการเเล่นเรือโดยปราศจากเข็มทิศ
ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
คณะวิทยาการจัดการ หลักสูตรการบริหารธุรกิจ (คอมพิวเตอร์ธุรกิจ)